ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จงจำไว้เสมอว่าข้ายังรักเจ้า
แม้นร่างกายจะดับสูญ แต่หัวใจรักของข้ายังอยู่
หัวใจรักที่ล่องลอยไปทุกที่ ไม่ว่าเจ้าจะอยู่แห่งหนใด
ไม่ว่าจะเจ้าจะเป็นอะไร
หัวใจรักของข้าก็จะยังอยู่กับเจ้า...
" เอริส "
เสียงนุ่มติดทุ้มเรียกคนที่นอนอยู่ด้วยน้ำเสียงไม่หนักไม่เบา
ร่างสูงโปร่งที่นอนเอกขเนกบนพื้นหญ้ารับสายลมเย็นสบายร้องตอบด้วยน้ำเสียงอื้ออึง
ดวงตาสีน้ำเงินเข้มสะท้อนภาพชายเบื้องหน้า
เส้นผมสีทอง ดวงเนตรสีรัตนชาติทับทิม สวมอาภรณ์เป็นผ้าลินินขาวโปร่งโล่งสบาย
ชายที่ยืนจังก้าค้ำหัวเธอคนนี้คือชายที่ได้ชื่อเป็นกษัตริย์ของมหานครอุรุค
เจ้าเก่าขาประจำยอมสละความทรนงนั่งลงบนพื้นหญ้าข้างๆเธอ
หญิงสาวเลิกคิ้วอย่างนึกแปลกใจ ไฉนเลยผู้ที่ถือศักดิ์ศรีและทนงตนเหนือสิ่งอื่นใดจะยอมให้กายสัมผัสพื้นดิน หากแต่นางก็นิ่งเฉยหาได้ส่งเสียงอะไรตอบ
เห็นดังนั้นราชาหนุ่มเริ่มอารมณ์เสีย
เขาทั้งให้นางได้พักพิงในวัง มีตำหนักมีสวนเป็นของตัวเอง มีนางรับใช้คอยปรนนิบัติไม่ขาดมือ
" ข้ายอมให้เจ้าได้ขนาดนี้แต่เจ้ายัง--- "
หญิงสาวผุดกายลุกขึ้นพลางใช้ปลายนิ้วแตะที่ริมฝีปากหนาเบาๆ
" ชู่ว~ อย่าพึ่งบ่นน่า ลองเอนหลังลงกับพื้นสิ จะได้เห็นอะไรดีๆ "
ไม่รอให้ได้รับคำตอบรับหญิงสาวที่เขาเทียวไล้เทียวขื่อเพราะหวังจะเกี้ยวพาราสี เขากลับเหมือนได้สหายสนิทอย่างไงอย่างงั้น
แต่เพราะความเจ้าชู้เป็นทุนเดิมเล่ห์เหลี่ยมจึงแพรวพราว ศีรษะของราชาแห่งอุรุคจงใจเอนลงบนตักของสัปเหร่อสาว
เอริสที่คร้านจะโต้เถียงครั้นจะผลักหัวของอีกคนออกจากตักก็ดูจะเป็นการเสียมารยาทไปสักหน่อย
" ไหนล่ะที่เจ้าอยากให้ข้าดู "
" ท่านมองหน้าข้า แล้วจะเห็นไหมล่ะ มองบนฟ้าโน่นสิ "
สิ้นคำกล่าวเขาจึงมองตามที่นางบอกก่อนที่ดวงตาสีทับทิมจะแหงนมองผืนฟ้าเบื้องบน
ดวงจันทร์ในคืนนี้ส่องสว่างกว่าทุกคืน มันเป็นสีน้ำเงินสวยเหมือนดวงตาของสตรีข้างกาย
เจ้าหล่องเองก็มองดวงจันทร์อยู่เช่นกันดวงหน้าเรียวยามต้องกระทบแสงจันทร์กลับยิ่งทวีความน่าหลงไหลอย่างน่าประหลาด
งาม...
งามจริงๆ
เอริสหลับตาปล่อยให้สายลมยามค่ำคืนได้พัดผ่านกายบรรยาการแสนเงียบสงบในแบบที่ราชากิลกาเมซไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
มันทำให้เขารู้สึกสบายใจแบบที่ไม่เคยเป็น
" ถ้าได้อยู่แบบนี้ไปนานๆก็ดีสิ "
เอริสว่าพลางมองทัศนียภาพโดยรอบ ทั้งธรรมชาติทั้งสรรพชีวิต มันช่างงามจนเธออยากจะอยู่มองมันไปนานๆ
" งั้นก็อยู่กับข้าสิ ข้าสัญญาว่าจะนำความอมตะมาให้ "
" ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้นเสียหน่อย "
เอริสถอดถอนใจอะไรทำให้เขาคิดแบบนั้นกัน?
" ฟังนะกิล ข้าจะต้องตายไม่วันใดก็วันหนึ่ง ดีไม่ดีอาจตายก่อนท่าน ข้าไม่อาจอยู่ค้ำฟ้าได้ "
" แค่ข้ามีท่านอยู่ตรงนี้ข้างๆข้าก็ดีใจแล้ว... "
ดวงตาสีทับทิมเบิกกว้าง ประหนึ่งหูฝาดไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ยินคำๆนี้จากปากของนาง
หญิงวิปลาสที่เขาตามเกี้ยวมานานยอมเปิดรับเขาจริงๆแล้วใช่ไหม?
" อุบ!-- หึหึ ทำหน้าอะไรของท่านน่ะ "
ยิ่งเห็นนางยิ้มหัวใจก็พลอยสั่นสะท้าน มันดังอื้ออึงเหมือนมีใครโบยกลองศึกจนน่าหวั่นใจ
ดวงเนตรสีทับทิมได้ตื่นขึ้นจากห้วงนิทราเสียที
มันคือห้วงฝันแสนหอมหวานของราชาวีรชน
จวบจนเมื่อหญิงคนรักของเขาได้สิ้นชีวิตลง
ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ในใจมันเคว้งคว้างขนาดนี้
ภายในห้องอันกว้างขวางแสนจะโอ่อ่าหรูหรา มากพอที่จะบรรจุคนนับสิบ แต่ภายในกลับมีเพียงแค่ชายหนุ่มนั่งอยู่ เพียงคนเดียว...
นัยต์ตาสีแดงราวกับรัตนชาติล้ำค่าฉายแววเศร้าโศก ใบหน้าเชิดรั้งทรนงบัดนี้กลับอ่อนล้า
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาได้แต่เพียงพร่ำเพ้อหาแต่เพียงนาง...
สตรีที่แปลกพิกลกว่าทุกคนที่เคยพบเจอ
เข้มแข็งทั้งกายใจ
ไม่หวั่นเกรงแม้จะต้องลำบาก
ใบหน้าคมคายแต่ยังคงงาม
น้ำเสียงนุ่มทุ้มเสนาะหูไม่หวีดแหลม
กิริยาท่าทางแก่นแก้วราวม้าดีดกะโหลกนั่นก็น่าเอ็นดู...
ครั้นภาพหญิงสาวที่คุ้นเคยก็ผุดขึ้นให้ใจไม่สงบ ริมฝีปากเผยอยิ่มแต่กลับเจือความหมองหม่น
การมีชีวิตอยู่โดยไร้เจ้ามันช่างปวดใจนัก...
ทั้งรอยยิ้ม
เสียงหัวเราะ
สัมผัสเรือนกายที่แสนคิดถึง
และดวงตาสีน้ำเงินคู่นั้น
ยังคงติดตรึงในหัวใจทุกนาที
ยิ่งพอนึกถึงวันวานที่เขาและเธอได้เคียงคู่กัน ความเจ็บปวดก็ยิ่งทวีคูณสุมในอุรา
แววตาว่างเปล่าได้แต่จ้องมองสิ่งที่เธอหลงเหลือไว้ให้
แหวนสีทอง ที่เขาใส่ได้เพียงนิ้วชี้
ของรักของราชาเลือดเย็นผู้นี้
ซึ่งได้มาจากผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ
แม้พรากจากกัน หัวใจรักยังคงอยู่
ความรัก ที่ยังคงล่องลอยในห้วงความทรงจำ
และเอริสก็รับรู้.....
เขาหลับตาลงปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุม และหวนนึกถึงเรื่องราวนั้น
นึกถึงแววตาอันสดใส คิดถึงรอยยิ้มอันเจิดจ้า และปล่อยให้ความทรงจำต่างๆไหลออกมาพร้อมกับถ้อยคำที่เบาราวเสียงกระซิบ
" เราคงได้พบกันในสักวัน "
" รอข้าด้วยล่ะ... "
จากนี้ต่อไปจะเป็นเรื่องราวความรักที่ไม่ว่าสุดท้ายทั้งคู่จะได้ครองรักกันจวบจนสิ้นชีวาวายหรือไม่ก็ไม่สำคัญหรอก...
เพราะแค่นี้
ก็เพียงพอแล้ว...
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก หากไม่ชอบสามารถกดออก
นิยายเรื่องนี้ไม่เน้นประวัติศาสตร์ ไม่เน้นข้อมูลแน่นเน้นบันเทิงนะจ๊ะ
และอีกอย่าง...
นิยายเรื่องนี้มีการปรับนิสัยของตัวละครเพื่อให้เข้ากับเนื้อหาไม่ชอบกดออก ถ้าชอบก็อ่านต่อสิค้า!!
ความคิดเห็น